" ปธ.กยอ."การันตีซื้อหุ้นปตท.-การบินไทย เพื่อฟื้นฟูหนี้สาธารณะ ไม่หวั่นซ้ำรอยวิกฤตกรีซ-อาร์เจนติน่า "ธีระชัย" เฟสบุ๊กค้านแหลก คลังขายหุ้นปตท.ให้วายุภักษ์เข้าข่าย "ตกแต่งบัญชี" ไม่ทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นได้ว่ารบ.จะไม่เข้าไปแทรกแซง เว้นแต่ขายให้มือที่ 3 ร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้าน"มาร์ค" จวกรัฐแปรรูป ปตท.หวังเอากำไรสนองกลุ่มทุน โยนภาระให้ประชาชน
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.55 นายวีรพงษ์ รางมากุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.)กล่าวถึงแนวทางที่รัฐบาลจะเข้าไปซื้อหุ้นปตท.การบินไทยในตลาด หลักทรัพย์ เพื่อฟื้นฟูหนี้สาธารณะ ขณะที่สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาคัดค้านร่างพ.ร.ก.
นายวีรพงษ์ กล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจากสถาบันการเงินจากกระทรวงการคลังไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ถือเป็นความชอบธรรมของรัฐบาล เพราะสถานะการเงินของ ธปท.ขณะนี้มีความเข้มแข็งพร้อมบริหารจัดการหนี้ จำนวน 1.14 ล้านล้านบาทได้
นายวีรพงษ์ กล่าวว่า แนวคิดการโอนหุ้นรัฐวิสาหกิจไปให้กองทุนวายุภักษ์ถือครองแทนกระทรวงการคลังเพื่อให้พ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะ บมจ.ปตท.(PTT)และ บมจ.การบินไทย(THAI) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่แต่ละปีมีการใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงนั้น มองว่าไม่น่ามีปัญหา โดยเฉพาะหากรัฐบาลจะให้กองทุนวายุภักษ์เข้าซื้อหุ้นเพียงสัดส่วน 2% จาก ปตท. เพื่อทำให้ ปตท. หลุดจาการเป็นรัฐวิสาหกิจ เพราะจะทำให้หนี้ของ ปตท.ที่มีอยู่กว่า 7 แสนล้านบาทไม่กลายเป็นหนี้สาธารณะของรัฐบาลต่อไป และจะส่งผลให้สถานการคลังของรัฐบาลดีขึ้นส่วนกรณีของการบินไทย ยังต้องมีการหรือทำความเข้าใจกับสหภาพการบินไทยก่อน เพราะขณะนี้สหภาพฯยังคงคัดค้านแนวทางที่จะให้การบินไทยพ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ เรื่องเหล่านี้ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นอาเจนติน่า หรือกรีซ ตัวตนหวาดกลัวเรื่องวิกฤตการเงินจึงต้องระวังเรื่องนี้ให้ดีที่สุด
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.กระทรวงการคลัง แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก "Thirachai Phuvanatnaranubala"ถึงกรณีที่รัฐบาล จะนำหุ้นรัฐวิสาหกิจ อาทิ ปตท. และ การบินไทย เข้าไปอยู่ในกองทุนวายุภักษ์ เพื่อให้รัฐบาลมีระดับหนี้สาธารณะลดลงจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยเนื้อหาสรุปว่า ทางด้านภาษานักบัญชีเรียกวิธีการเช่นนี้ว่า "การตกแต่งบัญชี" คือการทำให้หน้าต่างที่แสดงสินค้าดูสวยหรู แต่เป็นการบังหน้าปัญหาที่เละเทะที่ซ่อนอยู่ภายในร้าน และตัวอย่างของประเทศกรีซ ก็เห็นแล้วว่า หากพยายามซ่อนตัวเลขหนี้สาธารณะ และภายหลังถูกจับได้ ก็จะไม่มีใครเชื่อถือเครดิตของประเทศอีกต่อไป เป็นอันตรายอย่างมาก ขอเตือนไว้
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า รัฐบาลต้องจัดลำดับความสำคัญในทางเศรษฐกิจใหม่ เพราะสถานการณ์วันนี้ประชาชนรอคอยให้มีการลดค่าครองชีพ และเพิ่มรายได้ ตามนโยบายที่ยังค้างอยู่ของรัฐบาลมากกว่า ที่จะมาดูช่องทางทางธุรกิจ เพราะ ปตท.ยังมีปัญหาในเรื่องระบบการกำกับดูแลเรื่องการแข่งขัน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยการผลักภาระไปสู่ประชาชนและเพิ่มกำไรให้ ปตท.อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการฟ้องว่ารัฐบาลกำลังทำงานโดยคิดถึงใครเป็นสำคัญ ตอบสนองเป้าหมายของกลุ่มทุนกลุ่มเล็กๆ ดังนั้นหากมีการขายหุ้นออกไปสุดท้ายก็ตรวจสอบไม่ได้ว่าใครคือผู้ถือหุ้น ปตท.
"แม้แต่นายธีรชัย ภูวนารถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง ก็วิจารณ์ว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อลดหนี้สาธารณะ เป็นเรื่องอันตรายอันตราย เพราะจะถูกมองคล้ายหลายประเทศในยุโรปที่พยายามซ่อนหนี้ที่แท้จริงของภาครัฐจนไม่ได้นับความเชื่อมั่นกระทั่งกลายเป็นวิกฤตหนี้สาธารณะในที่สุด"
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งให้นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ เป็นรมว.พลังงานเพื่อรับผิดชอบเกี่ยวกับการสร้างกำไรให้ ปตท.คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าน่าจะเกี่ยวพัน ไปจนถึงเรื่องการทำข้อตกลงการทำธุรกิจกับต่างประเทศ ความพยายามที่จะเพิ่มกำไรและโยงกับเรื่องการแปรรูปด้วย และการที่ผู้บริหาร ปตท.ไปพบ รมว.พลังงานคนใหม่เพื่อผลักดันให้มีการนำก๊าซในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชามาแบ่งปันผลประโยชน์ก็แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเชื่อมโยงกัน
กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เห็นว่า ไม่ยุติธรรม และส่งผลเสียกับประเทศในระยะยาวว่า เมื่อเกิดปัญหาอุทกภัยและต้องวางระบบป้องกันอุทกภัย ขณะเดียวกันก็ว่าง เว้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นเวลานาน จนประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้าไทยไปหมด
เปลว สีเงิน : ปฏิบัติการ “ปล้นชาติ” สายฟ้าแลบ
เปลว สีเงิน
  ทำไมจึงมีคำว่า “สุภาพบุรุษโจร”
 ท่านทราบมั้ย…ผมก็ไม่ทราบ แต่ลองทบทวน “กฎ-กติกา-มารยาท” 
โจรสมัยก่อนก็พอเห็นเค้าลางๆ สมมุติว่าครม จ.แก๊งนั้นลงมติ 
“จะปล้นบ้านหลังนี้” ขั้นตอนปฏิบัติก่อนปล้น 
เขาจะเขียนเป็นป้ายไปปักให้รู้ตัวล่วงหน้าก่อน “แรม ๕ ค่ำ กู…จะปล้น” 
ครั้นถึงกำหนด ก่อนเข้าปล้น หัวหน้าโจรซึ่งส่วนมากเป็นตัวผู้ 
โจรตัวเมียมีน้อย  จะตะโกนให้เจ้าทรัพย์รู้ตัวอีกครั้ง ไอ้เสื่อเอาวา…หรือ…ไอ้เสือบุก!
    เหมือนจอมยุทธ์หนังกำลังภายใน ฝ่ายออกอาวุธก่อนต้องว้ากกกกเพ้ย  เพื่อ
ให้อีกฝ่ายออกกระบวนท่ารับมือ แฟร์ๆ แบบนี้กระมัง 
หนังจีนจึงเรียกผู้นั้นว่า…จอมยุทธ์ 
ส่วนของเราเรียก…จอมโจรบ้าง…สุภาพบุรุษโจรบ้าง
    โดยเยี่ยง…รัฐบาลนี้มีคุณสมบัติเป็น “สุภาพบุรุษโจร”!
    เพราะ
ก่อนปล้นประเทศ ชิงเอา ปตท.และการบินไทย ให้พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ 
เปิดช่องให้กลุ่มทุนฮุบรวยมโหฬารบานตระกูลแต่ผู้เดียว 
เขาก็ส่งสัญญาณบอกให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของ ปตท.-การบินไทย 
รู้ตัวก่อนเหมือนกัน
    เริ่มจากนายโกร่งจุดประเด็น-เซลไอเดีย จะให้กองทุนวายุภักษ์  กระทรวง
คลัง โดยภาษีประชาชน ไปซื้อหุ้น ปตท.และการบินไทยแห่งละ ๒% 
เมื่อคลังเหลือแห่งละ ๔๙% ทั้ง ปตท.และการบินไทย 
ที่เกิดขึ้นด้วยภาษีประชาชนเช่นกัน 
ก็จะพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจไปด้วยความเจ้าเล่ห์-แสนกล!
    แต่ความจริงไม่ง่ายหรอก เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน “รู้แกว” ตีกันไว้แล้ว!
    รัฐวิสาหกิจอย่าง ขสมก. อย่างรถไฟ มันไม่เอา เพราะไม่สร้างกำไร  แถมมาก
มายไปด้วยหนี้ แต่มันจะเอา ปตท.-การบินไทย กระทั่ง 
กฟผ.ที่เป็นพลังงานเพื่อไทย เพื่ออนาคตแข็งแกร่งประเทศไทย 
เป็นเส้นเลือดประเทศ และเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักเข้าประเทศ
    การ
จุดพลุประเด็นนี้ของนายกรัฐมนโทโกร่ง 
ผมถือว่าเขาปฏิบัติตามกฎ-กติกา-มารยาทโจร ถ้าเป็นโจรจริงๆ 
สามารถเข้าทำเนียบ “สุภาพบุรุษโจร” ได้เลย แต่รัฐมนโทโกร่งไม่ใช่โจร 
หากแต่เป็นผู้ล้ำเลิศเข้าตากระบวนการแดงทั้งแผ่นดิน 
จึงอัญเชิญมาออกแบบอนาคตใหม่ให้กับประเทศไทย!
    แล้ว
เมื่อวาน (๑๙ ม.ค.๕๕) เมื่อนายโกร่งปักป้าย 
คณะปฏิบัติการก็ลงมือด้วยการประกาศตามขั้นตอน…ไอ้เสือเอาวา…เอ้า…อ่านย่อๆ 
“บทเอาวา” ที่ผมคัดจากข่าว “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” มาให้อ่าน เพื่ออนุโมทนาร่วมกัน ดังนี้ 
    นาย
กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 
กล่าวว่า คลังมีนโยบายที่จะขายหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)  และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) เพื่อ
ไม่ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะทำให้เงินกู้ของทั้ง 2 บริษัท 
ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ เพื่อแสดงให้นักลงทุนต่างประเทศเห็นว่าจริงๆ 
แล้วหนี้สาธารณะของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำมาก
    อย่างไรก็ตาม เรื่องการขายหุ้นรัฐวิสาหกิจดังกล่าว ไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วน  อาจจะดำเนินการภายในปี โดยจะเป็นการขายหุ้นให้กับกองทุนวายุภักษ์ของกระทรวงการคลัง
    “แม้
ว่าตอนนี้หนี้สาธารณะของไทยจะอยู่ในระดับต่ำ 40% 
จากกรอบความยั่งยืนทางการคลัง ก็อยากทำให้ต่างชาติเห็นว่าจริงๆ 
แล้วหนี้สาธารณะประเทศอยู่ต่ำกว่านั้นอีก” 
    นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ  (สบ
น.) กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจมีหนี้จำนวน 1 ล้านล้านบาท 
ส่วนใหญ่เป็นของบริษัทขนาดใหญ่ เช่น บริษัท ปตท. บริษัท การบินไทย 
และบริษัท การท่าอากาศยานไทย
    ด้าน
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
 กล่าวว่า กองทุนวายุภักษ์มีสภาพคล่องประมาณ 5 หมื่นล้านบาท 
และพร้อมที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท ปตท. และบริษัท การบินไทย แห่งละ  2% เพื่อให้เหลือสัดส่วนที่คลังถืออยู่ 49% ไม่ถือเป็นรัฐวิสาหกิจ
    เป็น
ไงล่ะ…ลีลาปล้นเยี่ยงสุภาพบุรุษโจรน่านับถือใช่มั้ย 
บอกให้รู้ตัวทั้งก่อนปล้น และขณะจะลงมือปล้น 
แถมมีเหตุผลสวยหรูประกอบการปล้น ทำแบบนี้ด้วยนึกว่า 
นักลงทุนต่างชาติมันควาย แค่ย้ายหนี้จากกระเป๋าซ้ายไปซ่อนไว้กระเป๋าขวา 
มันก็นึกว่าหนี้สาธารณะไทยมีจิ๊บจ๊อย
    ซึ่ง
แท้จริงแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ใคร-ตรงไหน ทางตรงหรือทางอ้อม มันก็คือ 
“หนี้ประเทศไทย” ที่คนไทยทุกคนต้องจ่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่วายุภักษ์ 
อยู่ที่รัฐวิสาหกิจ  หรืออยู่ที่กระทรวงการคลัง”
    มันทำ-มันปล้นกันด้านๆ ด้วยถือในอำนาจแดงอย่างนี้ แล้วนายอะไรล่ะ  ผอ.สบน.น่ะ ผมไม่กล้าเขียนชื่อ เกรงว่าเขียนผิดแล้วจะทำให้เขาเสียฮวงจุ้ย  พลาดคิวบัญชีว่าที่รัฐมนตรีคลังทักษิณประเทศคนต่อๆ ไป พูดออกมาได้  เหมือนเห็นคนไทยควายทั้งประเทศ
    “ปัจจุบัน
รัฐวิสาหกิจมีหนี้จำนวน 1 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นของบริษัทขนาดใหญ่ เช่น 
บริษัท ปตท. บริษัท การบินไทย และบริษัท การท่าอากาศยาน”
    ไอ้เรื่องตัวเลขทางบัญชีน่ะ จะเอาแบบขาดทุน หรือแบบกำไร มีให้เลือก  หยิบตัวเลขส่วนนั้นมาอ้างอิงประกอบเหตุที่ตัวเองต้องการล่อหลอกให้คนเชื่อได้ทั้งนั้น  
    เอา
งี้ดีกว่า เจอเครือข่ายตระกูลชินคนไหน ลองแอบกระซิบที่ซอกหูถามเขาซิว่า 
“ตั้งแต่ซื้อมาหุ้นละ ๓๐ กว่าบาท จนถึงวันนี้ 
รับปันผลไปแล้วกี่หมื่น-กี่แสนล้าน หรือว่าไม่เคยมีปันผลเลย?”
    ผม
เห็นแต่ ปตท.มีกำไรส่งคลังติดอันดับท็อปไฟฟ์มาตลอด แล้ว 
ข้า-ราชะ-การคลังนายนี้ ตีขลุมให้คนฟังเข้าใจว่า ปตท.-การบินไทย 
มีแต่สร้างหนี้ให้คลังแบกเป็นล้านล้านบาท ฉะนั้น 
ต้องขายเพื่อให้พ้นความเป็นหนี้สาธารณะ ฟังแล้วขยะแขยง
    ก็ลองดูนี่ซิ ข้อมูลแจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงผลประกอบการแต่ละปีของ  ปตท. ผมก็หุ้นส่วน ปตท.คนหนึ่งเหมือนกัน…ทำเล่นไป เอ้า…ดูตัวเลขนี่ซิ
    ปี ๒๕๕๑ ปตท.กำไรสุทธิ ๕๑,๗๐๔.๘๐ ล้านบาท
    ปี ๒๕๕๒ ปตท.กำไรสุทธิ ๕๙,๕๔๗.๕๙ ล้านบาท
    ปี ๒๕๕๓ ปตท.กำไรสุทธิ ๘๓,๐๘๗.๗๒ ล้านบาท
    และแค่ไตรมาส ๓ ของปี ๒๕๕๔ ปตท.ที่นายอะไรนั่นฉ้อฉลตัวเลขว่า  ปตท.เป็นตัวสร้างหนี้ให้คลัง ทำกำไรสุทธิไปแล้ว ๘๘,๖๕๑.๔๒ ล้านบาท นี่ขนาดยังไม่ทันครบ ๔ ไตรมาส คิดเป็นกำไรก็ปาเข้าไปตั้ง ๓๑.๐๘ บาท/หุ้นแล้ว! 
    แบบ
นี้ ปตท.ทำกำไรช่วยล้างหนี้ให้คลัง หรือ ปตท.สร้างหนี้ให้คลังอย่างที่นาย 
สบน.นั่นบิดเบือน หาเหตุขายสมบัติชาติ 
เพื่อให้กลุ่มทุนภาคเอกชนฮุบไปกินท่าเดียว!?
    รัฐบาล
นางสาวยิ่งลักษณ์ ๖ เดือน 
ใช้ประเทศเป็นทุนสร้างผลประโยชน์ให้ทักษิณและเครือข่ายแดงอย่างเดียว 
คนถูกน้ำท่วมน่ะ 
ใครบ้าง…ที่ไปตอแหลตอหลดตดใต้น้ำรับปากช่วยเหลือ-เยียวยาสารพัดสารพันกับชาว
บ้านไว้น่ะ ตอนนี้ไม่มีอยู่ในความจำและลืมคำตอหลดหมดแล้วใช่มั้ย? 
    เปิด
หนังสือพิมพ์ เปิดโทรทัศน์ เปิดเว็บไซต์ เปิดทุกแห่งที่เป็นแหล่งให้ข่าวสาร
 ได้ยินคนไหนในรัฐบาลพูดถึงนโยบายที่ให้ไว้ตอนหาเสียงอีก 
มันเหมือนผายลมให้สุนัขดมไปหมดแล้ว 
กระทั่งคำสัญญาที่ไปยืนร้องไห้ขี้มูก-ขี้ลายไหล 
ว่าจะไม่ทอดทิ้งพ่อแม่พี่น้อง 
    แจก
 ๒ พัน ๕ พัน ๓ หมื่นอะไรนั่น 
แจกเป็นโปรโมชั่นการตลาดออกโทรทัศน์ก็จบแค่นั้น 
สำหรับรายการคนบ้านถูกน้ำท่วม 
ไม่เหมือนขบวนการที่มีนางแม่มดคอยตามจิกรัฐบาลสำรวยลืมคำ 
ฮึ่มฮั่ม…อย่าทำเป็นวัวลืมตีนนะ เท่านั้นแหละ ฟาดไป ๒,๐๐๐ ล้าน 
    ไม่ใช่ค่าบ้าน-ค่าเมืองถูกน้ำท่วม
    แต่เป็นค่า…เผาบ้าน-เผาเมือง!
    ๖
 เดือน ทำแต่เรื่องเพื่อพี่ เพื่อขบวนการ 
เพื่อผลาญและเพื่อยึดบ้าน-ยึดเมือง หมกมุ่นแต่แก้รัฐธรรมนูญ แก้มาตรา ๑๑๒ 
ออก พ.ร.ก.กู้เพื่อผลาญในปัจจุบัน แล้วผันเป็นหนี้สะสมให้อนาคต 
แปลงโจรเป็นข้าราชการการเมือง หวังเป็นหนอนชอนประเทศให้เป็นแดง 
ยุแยงให้เกลียดชังสถาบัน บั่นให้คลอน ก่อนผลักล้มครืน
    -แก้มาตรา ๑๑๒
    -ปล้น ๒,๐๐๐ ล้านแจกโจร
    -ล้มรัฐธรรมนูญเขียนใหม่
    -ออก พ.ร.ก. ๔ ฉบับ สร้างหนี้สะสมให้ประเทศ
    นี่คือ “วาระแห่งชาติ” สำหรับประชาชนผู้รักบ้าน-รักเมืองต้องช่วยกันกู้  และวันนี้ ด้วยน้ำมือบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ “วาระแห่งชาติ” จำเป็นต้องบรรจุเพิ่มอีก ๒ หัวข้อ คือ
    -แก้ พ.ร.บ.กลาโหม และซิกแซ็กเอา ปตท.-การบินไทยพ้นจากรัฐวิสาหกิจให้เอกชน “กลุ่มทุน” ฮุบเป็นเจ้าของ
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น