บล็อกนี้เป็นเพียงช่องทางรวบรวมข้อมูลข่าวสารจากที่ต่างๆ ผู้จัดทำไม่ได้มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารหรือต้องการให้ร้าย องกรณ์ หน่วยงานและบุคคลใดๆทั้งสิ้น+++++ หากบทความใดผิดพลาดหรือกระทบต่อ องกรณ์ หน่วยงาน หรือบุคคลใด ผู้จัดทำก็กราบขออภัยไว้ล่วงหน้า +++++ ผู้อ่านท่านใดมีข้อมูลหักล้าง ชี้แนะ หรือมีความเห็นใดๆเพิ่มเติมก็ขอความกรุณาแสดงความเห็นเพื่อให้เป็นความรู้สำหรับผู้อ่านท่านต่อๆไปได้ตามแต่จะเห็นสมควร ------------- ขอขอบคุณเจ้าของบทความทุกๆท่านมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ *******ช.ช้าง *******

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เกิดอะไรขึ้นที่ ปตท. น้ำมันและแก๊สไปไหน

 
' พันตรี ' สุดทนแฉปตท.สูญเกือบ 4 ล้านล้าน  

' พ.ต.รัฐเศรษฐ'ขึ้นเวทีพันธมิตรฯแฉ'ระบอบทักษิณ'รวมหัวงาบกำไรแก๊ส-น้ำมันจากการแปรรูป ปตท.ชาติสูญเสีย 7 ปีร่วม 3.5 ล้านล้านบาท ปูดขนน้ำมันดิบไทยส่งสิงคโปร์-อเมริกาตั้งราคาฟันส่วนตั้งกว่า 100% ปลุกทวงคืนเป็นของประชาชน   
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : วานนี้ ( 28 มิ.ย.) พ.ต.รัฐเศรษฐ แจ้งจำรัส ซึ่งทำงานในแท่นขุดเจาะน้ำมัน ได้ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ระบุถึงกรณีการปิโตเลียมถูกระบอบทักษิณฉ้อฉล เราจึงไปตรวจสอบแล้วพบว่า ปัญหาใหญ่เกิดจากการขึ้นราคาน้ำมัน และราคาแก๊สแพงกว่าปกติ รวมทั้งรถเมล์ขึ้นค่าโดยสารก็ขึ้นราคา อีกทั้งอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว  

' เดิมทีปั๊มมีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3 หมื่นแห่ง ขณะนี้เจ๊งไปเกือบหมดแล้ว เพราะเดิมทีเขาขายน้ำมัน 7 บาท เขาได้กำไร 2.30 บาท แต่ตอนหลังเข้ายึดครองการตลาด ก็จะเห็นเพียงแต่ปั๊มใหม่ๆ ซึ่งมีทั้งปั๊มบางจาก ปั๊มเจ็ท และปั๊ม ปตท.เท่านั้น ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ'   
พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าวอีกว่า ผู้ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการปล้นน้ำมัน ได้แก่ รถสิบล้อ รถปิกอัพ รวมไปถึงควายเหล็กของชาวบ้าน นอกจากนี้ สิ่งที่ไม่มีใครหรือสื่อมวลชนนำมาตีแผ่ให้ประชาชนรับรู้ คือหลักในการคำนวณน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถคำนวณได้ดังนี้  

1 บาร์เรล เท่ากับ 159 ลิตร โดย 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 33 บาท ซึ่งถ้าคำนวณเป็นเงินแล้ว 1 ลิตร จะเท่ากับ 27.78 บาท แต่วันนี้บ้านเราขายน้ำมันดีเซลลิตรละ 42 บาท ถือว่าแพงผิดปกติ แพงที่สุดในโลก เพราะเมื่อคำนวณกลับไปแล้วจะเท่ากับว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 202 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทั้ง ๆ ที่ราคาน้ำมันในประเทศสหรัฐอเมริกาเพียง 138 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล   
ทั้งนี้ ในภูมิภาคของเรามีทรัพยากรพลังงานธรรมชาติมากมายมหาศาล แต่กลับต้องใช้น้ำมันราคาแพงกว่าประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งเกิดจากจากการแปรรูป ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง ปตท.มีกำลังการผลิตน้ำมันวันละ 100 ล้านลิตร คำนวณเป็นเงินแล้วเฉลี่ยตกวันละ2,500 ล้านบาท ซึ่งไม่มีใครเคยบอกเรา มีแต่บอกว่านำเข้านำมันจากต่างประเทศ ดังนั้น เราจะต้องกอบกู้เอาพลังงานปิโตเลียม และน้ำมัน กลับมาเป็นของประชาชนโดยตรง   
พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือ แหล่งน้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติไม่ถูกเปิดเผยข้อเท็จจริง วันนี้เราผลิตแก๊สธรรมชาติได้วันละ 5,000ล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งคำนวณแล้วไทยสามารถผลิตได้เฉลี่ย 138 ล้านลิตรต่อวัน แต่กลับอ้างว่าต้องนำเข้า จนเป็นเงื่อนไขขอขึ้นราคา ขอลอยตัวราคาแก๊ส อย่างนี้ไม่ยุติธรรมกับประชาชน อีกทั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย และบนบก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,300 แท่น มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1 ล้านล้านบาท แต่เมื่อระบอบทักษิณเอาไปแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ขายเพียง 3 หมื่นล้านบาท ถูกจองเกลี้ยงภายในเวลา 1 นาทีเศษเท่านั้น  

' ผมแทบน้ำตาไหล เพราะผมทำงานอยู่ที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน แต่น้ำมันดิบที่นำขึ้นมาเขาเอาใส่เรือวิ่งไปทางสิงคโปร์ และออกไปทางจีน ญี่ปุ่น และอเมริกา ไม่ยอมเข้าระบบกลไกภาษีของเรา เพราะที่โน้นมีเท่าไหร่เขารับซื้อไม่อั้น นอกจากนี้ แม้แต่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เขาก็เอาไปไว้ที่อาคารชินวัตรชั้น 26 ที่สำคัญหลังจากแปรรูป ปตท.แม้ รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ 52 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับได้ผลตอบแทนน้อยมากเพียง 3 หมื่นล้านบาท และภาษีน้ำมันรวมผลิตภัณฑ์ทุกอย่างเก็บได้แค่ 7.7 หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งที่ ปตท.บอกว่าภาษีน้ำมันประมาณ 13 บาท ส่งให้หลวงหมด ซึ่ง 1ปีจะตกอยู่ที่ประมาณ 6-7 แสนล้านบาท เท่ากับเงินหายไป 5-6 แสนล้านบาทต่อปี รวมทั้งสิ้นเมื่อ ปตท.แปรรูปรวม 7 ปีเงินหายไป 3.5 ล้านล้านบาท'   
พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าวอีกว่า ดังนั้นถ้ามีการยึดทรัพย์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะจ่ายคืนให้กับเราวันละประมาณ 1,500 ล้านบาทที่เราถูกโกงไปหรือไม่ ซึ่งเราไม่เคยได้รับรู้รับทราบ เพราะไม่เคยมีใครเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบคำพูดและข้อมูลตัวเลขแผนที่สำรวจแหล่งพลังงานในประเทศไทย เพราะข้อมูลทั้งหมดเป็นของทางราชการทั้งสิ้น  

จาก thai energy

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คนไทยกู้แผ่นดิน บนเฟชบุ๊ค

บทความย้อนหลัง